[easingslider id=”2500″]
เช้าตรู่ของวันหยุดสุดสัปดาห์ปลายเดือนพฤศจิกายน ที่ลมหนาวอุณหภูมิ 18 องศาเซลเซียส พัดแผ่วมากระทบใบหน้าของนักศึกษาหลายร้อยชีวิต เสียงกริ่งนาฬิกาบอกเวลา 7 นาฬิกา เป็นสัญญาณของการเริ่มต้นประสบการณ์ที่ใครหลายคนจะจดจำไปอีกนานแสนนาน
สถานีต่อไป๋ สว่างด๋อนดู่ และดอนซ่างครับผม” เสียงพูดภาษาถิ่นของคุณลุงโชเฟอร์รถบัสดังขึ้น ขณะที่รถกำลังเคลื่อนที่ผ่านท้องทุ่งนาอันแห้งแล้งแต่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแบบพื้นถิ่นอีสาน เมื่อถึงจุดหมายปลายทางที่บ้านสว่างดอนดู่และดอนช้าง ตำบลบ้านเม็ง อำเภอหนอวเรือ จังหวัดขอนแก่น นักศึกษาต่างช่วยกันขนสัมภาระส่วนตัวและส่วนรวมลงรถ คุณพ่อคุณแม่เจ้าของบ้านพักเดินเข้ามาต้อนรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้มบอกความเป็นมิตร ทุกคนต่างเก็บสัมภาระตัวเองตามมุมต่าง ๆ ภายในบ้าน พร้อมทั้งแนะนำชื่อและหน้าที่ของตนเองแก่คุณพ่อคุณแม่เจ้าของบ้าน
ทุกคนต่างเริ่มปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองตามที่ได้รับมอบหมายเพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษา ภายในเวลาอันรวดเร็ว ในส่วนของงานที่หนักที่สุดนั้น คงจะหนีไม่พ้นงานของฝ่ายประชาสัมพันธ์ที่จะต้องจัดเตรียมพิธีเปิด โดยในช่วงก่อนเริ่มพิธีเปิดนั้นมีเวลาว่างค่อนข้างมาก นักศึกษาส่วนใหญ่จึงได้ออกเก็บข้อมูลของครอบครัวที่น่าสนใจในชุมชน โดยอาศัยหลัก INHOMESSS ซึ่งครอบคลุมทั้งการศึกษาสุขภาพกาย ใจ สภาพสังคม ตลอดจนสิ่งแวดล้อมภายในบ้าน บ้างก็นัดหมายประชุมงานของฝ่ายตนเองตามจุดรวมพลในหมู่บ้าน บ้างก็ใช้บริการร้านค้าที่ตั้งเรียงรายสองข้างถนนในหมู่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นร้านส้มตำ ร้านไก่ย่าง ร้านชานมไข่มุก และร้านกาแฟ
17.00 น. แสงสีแดงของพระอาทิตย์ทาบทาลงบนผนังศาลาการเปรียญของวัดภูศรีสว่าง ซึ่งตั้งอยู่ชายขอบของหมู่บ้านสว่างดอนดู่ ผู้คนเริ่มหลังไหลเข้ามายังบริเวณที่จัดงานพิธีเปิด ซึ่งนำโดยคณะกรรมการของชุมชน ซึ่งมีท่านจักรธร โงะบุดดา กำนันตำบลบ้านเม็ง เป็นประธาน พร้อมด้วย ท่านมงคล ชำนาญเวช ผู้ใหญ่บ้านสว่างดอนดู่ และท่านสมหวัง ชมพูวิเศษ ผู้ใหญ่บ้านดอนช้าง
เสียงสวดอาราธนาศีลของพราหมณ์ประจำหมู่บ้านดังขึ้น เป็นสัญญาณของการเริ่มพิธีเปิดโครงการอย่างเป็นทางการ หลังจากนั้น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้อำนวยการโรงเรียนสว่างดอนช้าง ต่างได้มากล่าวต้อนรับและให้โอวาทแก่นักศึกษา ตามด้วยการแนะนำคณาจารย์และคุณพ่อคุณแม่เจ้าของบ้านพัก จากนั้นตัวแทนจากโครงการต่าง ๆ ได้มาประชาสัมพันธ์กิจกรรมของโครงการตนเอง ซึ่งโครงการ C นั้น ได้จัดการแสดงในชื่อชุดการแสดง “เพลงสกัดเบาหวาน” มามอบรอยยิ้มและเสียงหัวเราะแก่ผู้มาร่วมงาน พิธีเปิดได้เสร็จสิ้นลงหลังจากที่ทุกคนร่วมบันทึกภาพเป็นที่ระลึก
ต่อมา หัวหน้าเขต 2 ได้จัดการประชุมคณะกรรมการเขตขึ้น โดยมอบโอกาสให้กับทุกคนได้นำเสนอสิ่งที่ฝ่ายตนเองได้ทำในหนึ่งวัน ร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ภายในเขต หลังเสร็จสิ้นการประชุม ทุกคนได้กลับไปยังบ้านพักของตน ร่วมกันรับประทานอาหาร และร่วมกันแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ได้ไปศึกษามาตลอดทั้งวัน ซึ่งส่วนใหญ่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เพียงแค่การเก็บข้อมูลในวันแรก ทำให้ได้เข้าใจสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในชุมชน ได้มองเห็นปัญหาทั้งกาย ใจ และสังคม ของผู้คนในแต่ละครัวเรือน ได้พบเห็นโรคภัยที่เคยเรียนรู้มาด้วยตาตนเอง ไม่ว่าจะเป็นโรคธาลัสซีเมีย โรคแพ้ภูมิตัวเอง และโรคไทรอยด์เป็นพิษ ซึ่งจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาด้านเวชศาสตร์ชุมชนที่มีประสิทธิภาพในอนาคต หลังเสร็จสิ้นภารกิจในวันอันแสนเหน็ดเหนื่อยแต่น่าจดจำ ทุกคนจึงได้เข้านอนอย่างมีความสุขในอ้อมกอดของขุนเขาภูเม็ง